นี่คงจะเป็นฤดูกาลที่แฟนๆเชลซีลืมไม่ลงอย่างแน่นอน เพราะนี่คือหนึ่งในฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่ที่เคยเห็นมา

หลังจากจบเกมนัดตกค้างเมื่อคืนที่บุกไปพ่าย แมนฯยูไนเต็ด เละ 1-4 ก็ได้มีสถิติที่ย่ำแย่ออกมาอีกครั้ง

สถิติที่ว่าคือนี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีค อังกฤษ ที่ เชลซี ไม่สามารถเอาชนะบรรดาทีม ‘ท็อปซิกซ์’ ได้เลยแม้แต่นัดเดียว 

โดย 10 เกมกับทีมท็อป์ 6 ของตาราง ‘สิงห์บลู’ พ่ายแพ้ไปถึง 6 เกม เเละเสมออีก 4 เกม ยิงได้เพียง 5 ประตู และเสียไป 15 ประตู 

เริ่มจากเกมแรกเสมอกับ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส สุดมันส์ 2-2 ซึ่งตอนนั้นยังเป็น โธมัส ทูเคิล ที่กุมบังเหียนอยู่ 

ถัดจากนั้น 5 เกมถัดมาได้เปลี่ยนหน้าผู้จัดการทืมเป็น เกรเเฮม พอตเตอร์ และก็ยังไม่สามารถเอาชนะใครได้ แถมยิงได้แค่ประตูเดียว โดยเป็นการเปิดบ้านเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 , พ่ายคาบ้านต่อ อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 , บุกเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 และบุกไปแพ้ สเปอร์ส 0-2 

หลังจากนั้นบอร์ดบริหารไม่ทนกับผลงานของ เกรแฮม พอตเตอร์ อีกต่อไป สั่งปลดแบบสายฟ้าฟาด ก่อนที่จะตั้ง บรูโน่ ซัลตอร์ คุมทีมชั่วคราวได้แค่นัดเดียว ซึ่งเป็นเกมบิ๊กแมตซ์ที่จะพบ ลิเวอร์พูล ก่อนที่จะเสมอกันแบบจืดชืด 0-0 

และคนล่าสุดปัจจุบันอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้ามาเหมือนจะแย่ที่สุดลงเตะเกมใหญ่ไป 3 เกมแพ้รวดทั้งหมดด้วยการบุกไปแพ้ อาร์เซนอล 1-3 , บุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่โรเตชั่นนักเตะ 0-1 และเกมล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมาบุกไปโดน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดกระจุย 1-4 

เป็นเสียงโหวตทที่คอ่นข้างจะเอกฉันท์มากๆ หากถามแฟนเชลซีว่าปีไหนคือปีที่ย่ำแย่ที่สุดของสโมสร เชื่อว่าแฟนบอลนับล้านคนคงจะตอบคล้ายๆกันว่า ‘เชลซี 2022-2023’