ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่าเหตุการณ์ ซาดิโอ มาเน่ ออกหมัดใส่ เลรอย ซาเน่ จะทำให้ บาเยิร์น มิวนิค เป็นทีมที่อันตรายขึ้น และโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาสำหรับการดวลกันใน แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เลกสอง “แน่นอนเลยว่าเรื่องนี้จะทำให้ บาเยิร์น อันตรายขึ้น” กุนซือชาวสเปน ตอบนักข่าวระหว่างสัมภาษณ์ก่อนเกม “บางครั้งคุณจำเป็นต้องมีความขัดแย้งเพื่อเพิ่มความสามัคคี ผมค่อนข้างมั่นใจในเรื่องนี้” “เหตุการณ์นี้ไม่ใช่จุดอ่อนสำหรับ บาเยิร์น แต่เป็นจุดแข็งต่างหาก” “ผมรู้จัก บาเยิร์น และผู้เล่นหลายคนของพวกเขาเป็นอย่างดี และผมก็สามารถนึกภาพสถานการณ์เมื่อพวกเขาต้องเจอ แมนฯ ซิตี้ ได้” “เราจะไปที่นั่น และเหล่าผู้เล่น บาเยิร์น จะแสดงฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดออกมาในคืนวันพุธนี้” “ถ้าสถานการณ์กลับกัน เราเป็นฝ่ายแพ้ 3-0 และเกมต่อมาไม่ชนะ แถมยังมีความขัดแย้งภายใน, ผมมั่นใจว่าลูกทีมจะมองเกมเลกสองเป็นนัดชิง และรู้อย่างชัดเจนถึงสิ่งที่ต้องทำ”

ยานน์ ซอมเมอร์ และ มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ สองแข้ง บาเยิร์น มิวนิค ยังเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถผ่าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ารอบรองชนะเลิศในแชมเปี้ยนส์ลีกได้ เกมเลกแรกที่ เอทิฮัด สเตเดี้ยม เป็นเกมที่สู้กันได้อย่างสูสี แต่ทว่าคุณภาพของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีมากกว่าในเกมนั้นบวกกับความผิดพลาดส่วนบุคคล ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค แพ้กลับออกมาด้วยสกอร์ที่ขาดลอย 3-0 อย่างไรก็ดี ซอมเมอร์ ยังเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถกลับมาพลิกสถานการณ์ได้ที่ อลิอันซ์ อารีน่า ในสัปดาห์หน้า “แน่นอนว่า 3-0 ดูจะมากเกินไปหน่อย แต่เราจะพยายามทุกทาง” “เรายังเชื่อมั่นและเราจะเดินหน้าต่อ เรามีโอกาสดีๆอยู่บ้างในเกมแรกและเกือบจะทำประตูได้ด้วย เราต้องเรียนรู้อะไรบางอย่างจากเกมนั้น มันเป็นผลการแข่งขันที่ยากที่จะยอมรับ เพราะมันเป็นเกมที่สูสีในช่วงเวลาส่วนใหญ่” “เรารู้ว่า ซิตี้ เป็นทีมที่ดี แต่เราต้องวิเคราะห์เกมของตัวเองอย่างละเอียดแล้วหาว่ายังปรับปรุงตรงไหนได้บ้าง และเรายังเชื่อมั่นอยู่เสมอ” ซอมเมอร์กล่าว ขณะที่ เดอ ลิกต์ ก็ยังเชื่อมั่นเช่นเดียวกับ ซอมเมอร์ “นี่คือเกมที่รายละเอียดเล็กๆมีความสำคัญ มันคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง เรามีโอกาสอยู่บ้างแต่ก็ไม่อาจคว้าเอาไว้ได้ […]

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือขัดตาทัพของ “เชลซี” ยังเชื่อมั่นว่าลูกทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” มีโอกาสที่จะพลิกสถานการณ์โค่น “เรอัล มาดริด” และตีตั๋วเข้ารอบต่อไปได้ เชลซี ที่เหลือ 10 คนหลัง เบน ชิลเวลล์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนามบุกไปแพ้ เรอัล มาดริด 0-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก โดยเกมนัดที่ 2 จะกลับมาเตะกันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันที่ 18 เมษายน นี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมบอกกับนักเตะว่าสิ่งที่พิเศษสามารถเกิดขึ้นได้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ บางทีมันก็เป็นเรื่องของความมั่นใจไม่ว่าจะเป็นส่วนบุคคลหรือความมั่นใจแบบทีม ถ้าคุณทำงานอย่างหนักต่อไป บางครั้งมันอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ โอกาสมันยังเปิดกว้าง มันขึ้นอยู่กับเรา” “พวกเขาขาดความเชื่อมั่นเล็กน้อย นักเตะยังไม่รู้ว่าตัวเองมีดีแค่ไหน และสามารถทำอะไรได้บ้าง ดังนั้นในสัปดาห์หน้ามันจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ มันมีรายละเอียดและมายด์เซ็ตบางอย่างที่ต้องเปลี่ยน ถ้าเราทำได้นะ ตัวผมเองก็เคยมีส่วนร่วมกับหลายค่ำคืนที่แสนพิเศษที่ เดอะ บริดจ์” สำหรับ โปรแกรมบอล นัดต่อไปของ เชลซี จะเจอกับ ไบร์ทตัน ในเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 15 เมษายน นี้

สื่อในประเทศสเปนพร้อมใจกันวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของชูเอา เฟลิกซ์ ว่าไม่มีอะไรน่าจดจำเลย ในเกมที่เชลซีบุกไปแพ้เรอัล มาดริด 0-2 ในยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก เฟลิกซ์ ยืมตัวจากแอตเลติโก้ มาดริด มาเล่นให้เชลซี ในซีซั่นนี้ ถูกจับตามองจากสื่อเป็นพิเศษว่า หลังไปเรียกฟอร์มอยู่ในพรีเมียร์ลีก การกลับมาสเปนครั้งนี้จะสามารถพิสูจน์ตัวเองได้หรือไม่ แต่เขาทำให้สื่อต้องผิดหวัง โดยเฉพาะลูกหลุดเดี่ยวนาทีที่ 2 ที่ปล่อยให้ เอแดร์ มิลิเตา วิ่งควบแซงหน้ากดดันซะจนทิ้งโอกาสทองขึ้นนำ ยิงง่ายๆให้ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ รับเข้าซองสบาย ‘ไม่มีอะไรน่าจดจำ’ มาร์ก้าพาดหัวโจมตีตัวรุกชาวโปรตุกีส พร้อมกับใส่ดีเทลเพิ่มว่า กองหลังของ ‘ราชันชุดขาว’ ไม่ได้เจอกับความยากลำบากในกับการมือกับ เฟลิกซ์ นอกจากนี้พวกเขากล่าวด้วยว่า ชัยชนะของเรอัล มาดริด แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงฟุตบอลที่เล่นกันเป็นทีมมากกว่าความสามารถเฉพาะตัวจากใครคนใดคนหนึ่ง ขณะที่ L’Equipe สื่อดังจากฝรั่งเศสให้คะแนนความสามารถของ เฟลิกซ์ 3 จาก 10 คะแนนเต็มเท่านั้น โดยมี เวสลีย์ โฟฟาน่า ได้ต่ำกว่าที่ 2 คะแนน

สเตฟาโน่ ปิโอลี่ กุนซือของเอซี มิลาน ออกมายืนยันว่าโอกาสเข้ารอบของพวกเขายังครึ่งๆ แม้จะเปิดบ้านเอาชนะนาโปลี 1-0 ในยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก อิสมาแอล เบนนาแซร์ ยิงประตูชัยจากจังหวะสวนกลับในช่วงท้ายครึ่งแรกพา ‘ปีศาจแดง-ดำ’ คว้าชัยเหนือจ่าฝูงกัลโช่ เซเรีย อา ก่อนในเกมนัดแรก “เหนือสิ่งอื่นใดผมแฮปปี้ที่ได้เอ็นจอยกับแฟน ๆ ในค่ำคืนนี้ ประวัติศาสตร์ของมิลานบอกเล่าถึงชัยชนะในแชมเปี้ยนส์ลีกมากมาย แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้เราฝันที่จะมาถึงจุดนี้ เพราะงั้นเราจึงอยากเอ็นจอยกับมัน” “เราขึ้นเกมจากแดนหลังได้ไม่ดีนักในตอนต้น, ทำให้ นาโปลี มีโอกาสมาทำร้ายเรา, แต่เราเก็บชัยชนะในบ้านเหนือ นาโปลี ครั้งแรกในรอบ 3 ปี แน่นอนว่ามันเป็นเพียงนัดแรกของการเจอกันเท่านั้น และยังคงต้องแข่งขันกันต่อไป” ปิโอลี่ กล่าวกับ สกาย อิตาเลีย

โทนี่ โครส มิดฟิลด์ห้องเครื่องของเรอัล มาดริด มีความสุขที่สามารถเอาชนะเชลซีได้ แต่ก็เสียดายว่าทีมของเขาน่าจะยิงได้มากกว่า 2 ประตู ‘ราขันชุดขาว’ ได้ 2 ประตูจาก คาริม เบนเซม่า และ มาร์โก้ อเซนซิโอ้ ช่วยให้ทีมคว้าชัยได้ก่อนในเลกแรกของยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบ 8 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตาม กองกลางชาวเยอรมัน มองว่า มาดริด น่าจะทำประตูมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อดูว่า เชลซี ต้องเล่นด้วยตัวนักเตะที่น้อยกว่าในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย “บางทีเราน่าจะโหมบุกมากกว่านี้” “แน่นอนว่ามันมีความอันตรายอยู่เสมอเมื่อเจอเกมสวนกลับ, เพราะงั้นคุณต้องระวังสิ่งนี้อยู่เสมอ ในตอนท้ายแล้วมันเป็นผลการแข่งขันที่ดี” “เป็นเกมที่ดี แต่บางทีเราน่าจะยิงได้มากกว่านี้สักหนึ่งหรือสองประตู” “เชลซี มีโอกาสอยู่บ้างในครึ่งแรก, เพราะงั้นเราแฮปปี้กับผลการแข่งขัน และหวังว่าจะปิดจ็อบในสัปดาห์หน้า” โครสกล่าวกับ CBS Sports

เชลซี ได้ทำสถิติใหม่แต่เป็นในทางที่ไม่ดี พวกเขาไม่สามารถทำประตูได้ 4 นัดติดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี หลังจบเกมที่ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ‘สิงห์บลู’ บุกพ่าย ‘ราชันชุดขาว’ โดยที่ไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้ทีมดังในพรีเมียร์ลีคทำประตูคู่แข่งไม่ได้ 4 เกมติดกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1993 จำนวนนัดที่ยิงไม่ได้ 4 เกมติดมีดังนี้ นอกจากจะแพ้แล้วพวกเขาต้องเสีย เบน ชิลเวลล์ ที่โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่ 59 โดยพวกเขาจะกลับไปเล่นในลีคพบกับไบร์ทตัน ก่อนจะเปิดบ้านชี้ชะตาในนัดที่สองกับเรอัล มาดริด

ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือของนาโปลี ออกมาคอนเฟิร์มว่าในเกมนัดที่สองของยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีครอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะกลับไปเล่นในบ้านพบกับเอซี มิลาน พวกเขาจะได้ วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้าตัวเก่งของทีมกลับมา โอซิมเฮน มีอาการบาดเจ็บมาตั้งแต่ช่วงฟีฟ่าเดย์กับทีมชาติไนจีเรีย ทำให้เขาพลาดลงสนามไปหลายเกม รวมถึงเกมล่าสุดที่บุกแพ้เอซี มิลาน 0-1 ในเลกแรก อย่างไรก็ดี สปัลเล็ตติ ยืนยันว่าดาวซัลโวคนเก่งของทีมจะกลับมาทันเวลาในเลกสองที่จะแข่งขันที่เนเปิ้ลส์ “วิคเตอร์ โอซิมเฮน จะฟิตเต็มร้อยสำหรับเลกสอง คืนวันอังคารหน้า เขาจะพร้อมแน่นอน” มิลาน ได้ประตูชัยจาก อิสมาเอล เบนนาสเซอร์ ตั้งแต่ท้ายครึ่งแรกจากการสวนกลับที่ยอดเยี่ยม ขณะที่ นาโปลี ต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ อองเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ้ อ็องกีสซ่า ได้ใบแดงในนาทีที่ 74 แม้จะได้โอซิมเฮนกลับมา แต่ก็ต้องเสียกองกลางตัวสำคัญของทีมไปแทน

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือของเชลซี ยืนยันว่ายังไม่ยอมแพ้ และเชื่อมั่นว่าสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นจะสามารถสร้างสิ่งพิเศษที่จะช่วยให้พวกเขายกระดับการเล่นในนัดที่สอง แลมพาร์ด คุม “สิงห์บลูส์” ลงเล่น แชมป์เปี้ยนส์ ลีก เลกแรกบุกพ่าย เรอัล มาดริด 2-0 เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาไร้ชัย 5 นัดติดทุกรายการไปแล้ว “ผมเห็นเรื่องดีๆ หลายอย่าง แต่ผลการแข่งขันคือความจริง” “เราแสดงหลายอย่างออกมา เราเป็นทีมที่ดี แต่ผมสามารถเห็นบางจังหวะที่เหล่าผู้เล่นขาดความเชื่อมั่น” “เหล่าผู้เล่นกำลังผ่านช่วงเวลายากลำบาก แต่พวกเขาต้องเข้าใจว่าตัวเองเก่งแค่ไหน และสามารถทำอะไรได้บ้าง, ตอนนี้เราอาจขาดสิ่งนี้ไป และไม่ใช่เรื่องง่ายในการมาเยือน มาดริด ด้วยสภาพแบบนั้น” “ผมเพิ่งบอกกับลูกทีมไปว่า เรื่องราวอันแสนพิเศษสามารถเกิดขึ้นได้ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ และถึงแม้ มาดริด คือทีมที่ดีมาก แต่เราต้องมีความเชื่อ” “เราต้องยกระดับขึ้นมาอีกขั้น ทั้งเรื่องรายละเอียดต่างๆ ในการเล่น และเราต้องมีทัศนคติแง่บวกกว่านี้อีกมาก” “เกมนี้เรามีโอกาสใช้พื้นที่ริมเส้นให้เป็นประโยชน์มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราอาจทำได้ในสัปดาห์หน้า” “เรามีคุณภาพอยู่แล้ว และหากเราทำแบบนั้นได้ล่ะก็… ผมเคยมีส่วนร่วมกับหลายค่ำคืนอันแสนพิเศษที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์” แลมพาร์ดกล่าว

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นการโคจรมาพบกันของ เอซี มิลาน และ นาโปลี จ่าฝูง กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี โดยนัดแรก เอซี มิลาน เปิดบ้านรับการมาเยือนของ นาโปลี ก่อน ผลปรากฏว่า เอซี มิลาน เอาชนะ นาโปลี ไป 1-0 โดย เอซี มิลาน ได้ประตูจาก อิสมาเอล เบนนาเซอร์ ในนาทีที่ 40 ส่วน นาโปลี เหลือ 10 คนในนาทีที่ 74 อ็องเดร-ฟร้องค์ ซัมโบ อ็องกีสซ่า ได้ใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม เอซี มิลาน เก็บชัยชนะไปได้ก่อนในเกมแรก แต่สกอร์ยังไม่ขาด นาโปลี มีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้ในนัดสอง ซึ่งจะได้กลับไปเล่นในบ้าน

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เรอัล มาดริด เปิดสนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว รับการมาเยือนของ เชลซี นาทีที่ 21 คาริม เบนเซม่า ตามมาซ้ำให้ เรอัล มาดริด ขึ้นนำ เชลซี 1-0 และก็จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลัง นาทีที่ 59 เบน ชิลเวลล์ ตัดฟาวล์เป็นคนสุดท้ายถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม เชลซี เหลือ 10 คน จากนั้น นาทีที่ 74 มาร์โก อเซนซิโอ้ ทำประตูให้ เรอัล มาดริด ทิ้งห่างเป็น 2-0 ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้ จบเกม เรอัล มาดริด ชนะ เชลซี ที่เหลือ 10 คน 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนในเกมแรก […]

ซาดิโอ มาเน่ ตกเป็นข่าวต่อยเข้าที่ใบหน้าของ ลีรอย ซาเน่ เพื่อนร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค หลังเกมที่ทีมออกไปเยือนแพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-3 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก “บิลด์” สื่อดัง เยอรมนี ออกมาเปิดเผยว่าหลังเกม ซาดิโอ มาเน่ ได้มีปากเสียงกลางห้องแต่งตัวกับ  ลีรอย ซาเน่ จนกระทั่งบานปลายไปถึงการที่ มาเน่ ออกหมัดใส่ ซาเน่ จนเลือดออกปาก ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะมาแยกทั้งคู่ออกจากกัน โดยสาเหตุความขัดแย้งมาจากในนาทีที่ 83 มาเน่ วิ่งทะลุช่องเพื่อรับบอลยาว แทนที่จะลงมาต่อบอลสั้น ๆ ซึ่งนั่นทำให้ ซาเน่ รู้สึกโกรธจึงเข้าไปต่อว่า ซึ่ง มาเน่ เองก็ไม่ยอมต่อเหตุการณ์ตรงนี้ ที่สำคัญสื่อได้มีการจับภาพเหตุการณ์ตรงนี้ไว้ได้ อย่างไรก็ตามทาง บาเยิร์น มิวนิค ยังไม่ได้ไม่ให้คำตอบถึงเหตุการณ์ รวมถึงบทลงโทษที่ มาเน่ และ ซาเน่ […]