เผยข้อมูล ยอดคนดู ฟุตบอลทีมชาติไทย และ ไทยลีก สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ผ่านการรับชมจากแพลตฟอร์ม AIS PLAY มากถึง 11.66 ล้านคน ขณะที่ สมาคมฯ พร้อมเปิดรับข้อเสนอผู้ถือลิขสิทธิ์เพื่อประโยชน์สูงสุดกับสโมสรสมาชิก
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ชมฟุตบอลสดและย้อนหลังของการแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยและไทยลีกผ่านการรับชมจากแพลตฟอร์ม AIS PLAY ในทั้งสองฤดูกาลที่ผ่านมา มียอดคนดูกว่า 11.66 ล้านคน และยอดวิวรวม 1,001,352,000 วิว
โดยในฤดูกาล 2021/22 ยังได้มีการทำการสำรวจเรตติ้งผู้ชมคอนเทนต์ฟุตบอล เปรียบเทียบระหว่างฟุตบอล รีโว่ ไทยลีกและลีกชั้นนำของยุโรป เช่น English Premier League และ Bundesliga ผลปรากฏว่า รีโว่ ไทยลีก มีค่าเฉลี่ยเรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 0.887 ตามมาด้วย English Premier League 0.792 และ Bundesliga 0.527 มีผลสืบเนื่องมาจากการสร้างฐานแฟนฟุตบอลของแต่ละสโมสรในไทยลีก ที่เติบโตและติดตามการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในการนี้ สัญญาผู้ถือสิทธิ์การถ่ายทอดสดปัจจุบันจะสิ้นสุดลงหลังจบฤดูกาลแข่งขัน 2022/23 สมาคมฯ ในฐานะผู้กำกับและบริหารจัดการฟุตบอลไทย ได้ทราบถึงเจตจำนงค์ของที่ผู้ถือสิทธิ์ที่สนใจเข้าเจรจาสัญญาเพื่อหาข้อตกลงสำหรับฤดูกาลต่อไป และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเสมอภาค เห็นควรให้มีการเปิดโอกาสให้องค์กรที่สนใจเป็นผู้ถือสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันของทีมชาติไทยและฟุตบอลลีกอาชีพในฤดูกาล 2023/24 เป็นต้นไป เพื่อเข้าเจรจาลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด (Media Rights) โดยมีกำหนดรับข้อเสนอดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เพื่อให้สมาคมฯ สามารถสรรหาผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลทีมชาติไทยและฟุตบอลไทยลีก เพื่อดำเนินการจัดการแข่งขัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดของสโมสรสมาชิก ที่เข้าร่วมการแข่งขัน สนับสนุน ส่งเสริมผู้ฝึกสอน นักฟุตบอล สนามแข่งขัน บุคลากรกีฬา ถือเป็นส่วนสำคัญของฟุตบอลไทย ต่อไป
โดย พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ผมต้องขอขอบคุณสโมสรสมาชิก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆฝ่าย ที่ช่วยกันและทำให้คอนเทนต์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย มีสถิติที่น่าสนใจและรักษาความเป็นกีฬายอดนิยมของประเทศอย่างเหนียวแน่น สมาคมฯเอง มีหน้าที่ต้องพัฒนาและสนับสนุนให้ฟุตบอลได้ก้าวเดินอย่างมั่นคงและยั่งยืน ถึงแม้ว่าในฤดูกาลที่ผ่านมานั้น เราต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากทางด้านสภาพคล่องด้านการเงิน แต่สมาคมฯ ก็ยังได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการขอรายละเอียด ในการเข้ามาถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในอนาคต ซึ่งผมถือว่าการเปิดให้มีการประมูลและเชิญให้เข้าร่วมเสนอมูลค่าที่เป็นที่พอใจสำหรับทุกๆฝ่าย จะเป็นการเปิดโอกาสกับผู้ถือลิขสิทธิ์ที่มีความพร้อมมากที่สุด เข้ามาร่วมเดินทางไปกับสโมสร และสมาชิก เพื่อสนับสนุนวงการฟุตบอลไทยต่อไป”
สมาคมฯ ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจในการเสนอการประกวดราคาของผู้ถือลิขสิทธิ์การออกอากาศและแพร่ภาพสัญญาณ สำหรับรอบปี 2566/2567 – 2569/2570 ติดต่อขอรับรายละเอียดและข้อกำหนดของการประกวดราคาดังกล่าวได้ที่อีเมล์ [email protected] และขอขอบคุณที่ให้ความสนใจลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลในครั้งนี้
