บีบีซี วิเคราะห์สาเหตุการตกชั้นของ เลสเตอร์ ซิตี้ ไว้น่าสนใจหลากหลายประเด็น
ปรีซีซั่นกับ ‘ความคาดหวังที่แตกต่างกัน‘
มีสัญญาณเตือนในช่วงปรีซีซั่นว่าแคมเปญที่วุ่นวายกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อร็อดเจอร์ส ส่งสัญญาณอยากเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในทีม หลังจากย้ายมาจาก กลาสโกว์ เซลติกในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 และนำสโมสรไปสู่ความสำเร็จในบอลถ้วยในประเทศในอีก 2 ปีต่อมาและยังคว้าแชมป์คอมมิวนิตี ชิลด์อีกด้วย
ทีมของเขาพลาดการไปเล่น ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยการจบอันดับที่ 5 ติดต่อกัน 2 ฤดูกาล ก่อนจะมาอยู่ที่ 8 ในฤดูกาลที่แล้วและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศของยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก
นั่นเป็นจุดที่ชาวไอริชเหนือต้องการรีเฟรชทีมเพื่อผลักดันให้ทีมจบ TOP 6 อีกครั้ง ด้วยการปล่อยตัวผู้เล่นบางคน และนำผู้ที่สามารถให้ความกระหายและพลังงานมากขึ้น เขาส่งรายชื่อผู้เล่นที่เขาต้องการขาย ให้กับผู้มีอำนาจตัดสินใจ มีชื่อของ นัมปาลีส์ เมนดี้และ อโยเซ่ เปเรซ ด้วย เขาพยายามจะดึง ลีวาย โคลวิล กองหลังเชลซี แต่ก็ถูกยืมตัวไปเล่นกับไบรท์ตันแทน
และเมื่อร็อดเจอร์สกลับมาในช่วงปรีซีซั่น เขารู้สึกทึ่งที่เห็นคนที่เขาต้องการขายยังอยู่ที่สโมสร
แน่นอน โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อเจ้าของสโมสรอย่างหนัก ธุรกิจคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี หยุดชะงัก เพราะอุตสาหกรรมการบินหยุดไป นั่นหมายความว่ากระเป๋าเงินในการลงทุนอื่น ๆ ของพวกเขารวมถึงเลสเตอร์จะต้องรัดกุม
“แน่นอนว่าผมต้องการปรับปรุงทีม ผมต้องการพัฒนาทีม” ร็อดเจอร์สกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
“ผมพูดไปเมื่อกลางปีที่แล้ว แต่ถ้ามันยากทางการเงิน ผมเคารพสโมสรจริงๆ ดังนั้นผมจะไม่ไปทำสงครามกับพวกเขา”
“มันน่าเสียดาย เราต้องทำงานบางอย่าง และถ้าเราทำได้ หวังว่าเราจะส่งผลกระทบต่อทีมได้ เพราะถ้าเราจะแข่งขันที่ไหนก็ได้ใกล้กับที่เราเคยไป เราก็ต้องทำสิ่งนั้นให้ได้”
“ถ้าไม่เช่นนั้นก็เป็นความคาดหวังที่แตกต่างออกไป”
สโมสรต้องใช้เวลาจนถึงชั่วโมงสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะในการเซ็นสัญญาในช่วงซัมเมอร์ที่สำคัญของพวกเขา นั่นคือ เว้าท์ ฟาส เซ็นเตอร์แบ็คที่ย้ายมาจากแรนส์ในราคาประมาณ 15 ล้านปอนด์
แผนสองรองรับ ?
เลสเตอร์ชนะเพียงเกมเดียวจาก 10 เกมแรกในฤดูกาล แต่กลับมารั้งอันดับ 12 ห่างโซนตกชั้น 4 แต้มก่อนหยุดฟุตบอลโลก
แม้ในตอนแรกเขาได้รับการสนับสนุนจากแฟๆ แต่สุดท้าย ป้าย’Rodgers Out’ ก็เริ่มมีให้เห็น หลังจากที่แพ้ เชลซี 1-2 และเสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 ในเกมถัดมา
ร็อดเจอร์สอยู่ในตำแหน่งในช่วงพักเบรกทีมชาติ และในที่สุดบอร์ดบริหารก็ตัดสินใจปลดร็อดเจอร์สออก หลังพาทีมคริสตัล พาเลซ 2-1 ทำให้พวกเขาตกไปอยู่ 3 ทีมจากท้ายตาราง
แต่ดูเหมือนทีมจะไม่มีแผนสำหรับคนที่จะมาแทนที่ร็อดเจอร์สทันที
สโมสรแต่งตั้ง อดัม แซดเลอร์ รักษาการในเกมที่ แพ้แอสตัน วิลล่า และบอร์นมัธในบ้าน โดยทีมมีการติดต่อกับเอเย่นต์ของเกรแฮม พอตเตอร์ ซึ่งเพิ่งถูกเชลซีไล่ออก แต่เขาปฏิเสธไป จากนั้นมีการเสนอข้อตกลง 3 ปีให้กับ เจสซี่ มาร์ช อดีตนายใหญ่ของลีดส์ แต่ก็ปฏิเสธอีก เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสม
เมื่อเหลืออีก 8 เกม ดีน สมิธได้รับการแต่งตั้ง เคียงข้างด้วยอดีตผู้จัดการทีมคนคุ้นเคยอย่าง เคร็ก เชคสเปียร์ และอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ จอห์น เทอร์รี แต่มันก็ยังน้อยเกินไปและสายเกินไปสำหรับเวลาที่ได้
เจมส์ แมดดิสัน ตั้งคำถามถึง “ความกระหาย” ของเพื่อนร่วมทีมหลังเกมพ่ายฟูแล่ม 5-3 ซึ่งระหว่างนั้นแฟนบอลตะโกนว่า ‘คุณไม่เหมาะที่จะสวมเสื้อตัวนี้’ พวกเขาตามมาด้วยคำว่า ‘เรากำลังตกลงไป’ ในช่วงที่แพ้ลิเวอร์พูล บ้าน 3-0
ไม่มีผู้นำทดแทน แคสเปอร์ ชไมเคิล
ซัมเมอร์ที่แล้ว สโมสรอนุญาตให้แคสเปอร์ ชไมเคิล ตำนานของสโมสรและกัปตันทีมย้ายไปอยู่กับนีซหลังจากลงเล่นกับทีมไป 11 ปีและลงเล่นไป 479 เกมและทีมไม่ได้เซ็นสัญญานักเตะใหม่ที่เหมาะสมมาทดแทน
โดยชไมเคิลเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม เขายังเป็นคนหนึ่งที่วิ่งเข้าไปดูคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา จากเหตุการณ์อุบัติเหตุทางเฮลิค็อปเตอ์ ในเดือนตุลาคม 2561
ทีมที่แพงที่สุดที่จะตกชั้น
เมื่อดูเผินๆ เลสเตอร์ ซิตี้ อาจดูเหมือนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกในทันที ถ้าพวกเขายังรักษาตัวนักเตะดีๆ ไว้ได้
เจมส์ แมดดิสัน และ ฮาร์วีย์ บาร์นส คือ 2 ตัวหลักที่น่าจะถูกจับต้องจากบิ๊กทีมในอังกฤษแน่นอน หากปัญหาของ เลสเตอร์ในการค้นหาตัวแทนของร็อดเจอร์สเป็นเรื่องตลก แต่การขาดแผนสำหรับผู้เล่นน่าจะแย่ลงไปอีก
มีผู้เล่น 7 คน จะหมดสัญญาในเดือนมิถุนายน รวมถึงนักเตะอย่างยูริ เตลีม็องส์ และ ชากลาร์ โซยุนชู และอีก 8 คนจะหมดสัญญาในฤดูกาลหน้า และอาจจะต้องลดเงินค่าจ้างลง 50% หากสโมสรต้องตกชั้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะมีการยกเครื่องครั้งใหญ่
ปัจจุบันค่าเหนื่อยของ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่ที่ 180 ล้านปอนด์ ซึ่งสูงที่สุด เมื่อนับจากทีมนอก TOP6 ของลีก โดยมี เจมส์ แมดดิสัน, เจมี วาร์ดี และริคาร์โด เปเรรา อยู่ในกลุ่มนักเตะที่มีรายได้เกิน 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
สโมสรมีรายได้ 214 ล้านปอนด์ในบัญชีของพวกเขาจนถึงเดือนพฤษภาคม 2565 แต่จะลดลงเหลือประมาณ 70 ล้านปอนด์ในการแข่งขันชิงแชมป์เดอะแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งตอนนี้ปัญหาหลักที่พวกเขาเผชิญคือการชำระเงิน กู้ยืมกับธนาคารที่ทำไว้
ครั้งสุดท้ายที่เลสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกคือช่วงสิ้นสุดฤดูกาล 2003-04 และต้องใช้เวลาถึง 10 ฤดูกาลในการกลับสู่ลีกสูงสุด รวมถึงหนึ่งฤดูกาลที่ใช้ในลีก วัน
ผู้เล่น กองเชียร์ และสโมสรจะเป็นหนทางที่ยาวไกลและเจ็บปวดในการกลับสู่จุดสูงสุดไม่ได้รออยู่ข้างหน้า
