อาร์เซน่อล การันตีคว้าตั๋วไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า แม้พวกเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธ
โดยชัยชนะของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เหนือ ไบรท์ตัน 3-1 ไม่เพียงแต่เพิ่มโอกาสให้ “เจ้าป่า” อยู่รอดบนลีกสูงสุด แต่ยังเป็นผลให้ “ปืนใหญ่” ได้เป็นเล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าอีกด้วย
นี่เป็นครั้งแรกที่ เดอะ กันเนอร์ส ผ่านเข้ารอบในการแข่งขันระดับท็อปของยุโรป นับตั้งแต่ฤดูกาล 2015-16 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่พวกเขาจบอันดับ 2 รองจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ในพรีเมียร์ลีก
เดอะ กันเนอร์ส ไม่ได้เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก เลยนับตั้งแต่พวกเขาพ่ายแพ้สกอร์รวม 10-2 ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายฤดูกาล 2016-17
สำหรับ ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 8 หมดสิทธิ์แซง อาร์เซน่อล แน่นอนแล้ว เนื่องจากตอนนี้มี 49 แต้ม จาก 30 เกม แต่เหลือโปรแกรมอีกแค่ 8 เกม มีโอกาสเก็บแต้มสูงสุดได้แค่ 24 แต้ม แต่ช่องว่างระหว่างทั้งคู่ห่างกัน 26 แต้ม
นอกจากนี้ แอสตัน วิลล่า อันดับ 5 มี 54 แต้ม และเหลือโปรแกรมอีกเพียง 5 เกม มีโอกาสเก็บแต้มเพิ่มได้แค่ 15 แต้ม แต่พวกเขาตามหลัง อาร์เซน่อล ห่าง 21 แต้ม
ส่วน ลิเวอร์พูล อันดับ 6 และ สเปอร์ส อันดับ 7 มี 53 แต้มเท่ากัน เหลือโปรแกรมอีก 6 เกม มีโอกาสเก็บแต้มได้สูงสุดแค่ 18 แต้ม แต่ทั้งสองทีมตาม อาร์เซน่อล ห่าง 22 แต้ม
ช่วงต้นฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล ตั้งเป้าไปที่การผ่านเข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากพลาดให้คู่ปรับตลอดกาล อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อท้ายฤดูกาลที่แล้วอย่างหวุดหวิด
แต่เนื่องจากพวกเขามีคะแนนนำ แมนฯ ซิตี้ ถึง 8 แต้มเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน และมีความรู้สึกผิดหวังมากขึ้นหลังจากผลการแข่งขันเมื่อคืนนี้ โดยตอนนี้ทีมของ กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้ควบคุมการลุ้นแชมป์ และทีม “ปืนใหญ่” ก็ทราบดีว่ามาระยะหนึ่งแล้วว่า พวกเขาน่าจะได้ไปลุยแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า
เดอะ กันเนอร์ส ฟอร์มตกลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยความพ่ายแพ้ต่อ ซิตี้ หลังจากเสมอกับ ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม และเซาธ์แฮมป์ตัน