การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ปี 2023 นอกจากจะเพิ่มสนามแข่งจาก 20 สนามในปี 2022 มาเป็น 21 สนามในปีนี้
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือในปีนี้จะมีการแข่งขัน สปรินท์เรซ เพิ่มขึ้นมาอีกเรซในทุกสนาม
ถามว่า สปรินท์เรซ คืออะไร สปรินท์เรซ เคยถูกนำมาใช้ในการแข่งขัน WorldSBK ในปี 2019 แต่เรียกว่าซูเปอร์โพลเรซ จากนั้นก็เริ่มมีแข่งในรถฟอร์มูลา วัน หรือ F1 แต่ก็ไม่ได้มีในทุก ๆ สนาม
ทว่า สปรินท์เรซ ในโมโต จีพี จะมีทุกสนาม โดยแข่งขันในวันเสาร์ รูปแบบการแข่งขันคล้ายกับการแข่งเรซแบบปกติในวันอาทิตย์ แต่จะแข่งเพียงครึ่งเดียวของการแข่งขันปกติ เช่น ถ้าสมมติว่าสนามนั้น การแข่งขันในเรซปกติแข่งทั้งหมด 20 แล็ป สปรินท์เรซก็จะเหลือแค่ 10 แล็ปเท่านั้น โดยจะแข่งขันกันในบ่ายสามโมงของวันเสาร์ ในส่วนของคะแนนก็จะลดลงเช่นกัน โดยอันดับที่ 1 ก็จะได้ 12 คะแนน อันดับ 2 ได้ 9 คะแนน อันดับ 3 ได้ 7 คะแนน อันดับ 4 ได้ 6 คะแนน อันดับ 5 ได้ 5 คะแนน อันดับ 6 ได้ 4 คะแนน อันดับ 7 ได้ 3 คะแนน อันดับ 8 ได้ 2 คะแนน และอันดับ 9 ได้ 1 คะแนน
ขณะที่ เรซจริงในวันอาทิตย์ อันดับ 1 ได้ 25 คะแนน อันดับ 2 ได้ 20 คะแนน อันดับ 3 ได้ 16 คะแนน อันดับ 4 ได้ 13 คะแนน อันดับ 5 ได้ 11 คะแนน จากนั้นอันดับถัดไปลดลง 1 คะแนนไล่เรียงไปจนถึงอันดับ 15 ได้ 1 คะแนน
และแต่ละสนามก็จะเอาคะแนน ของ สปรินท์เรซ และ รอบแข่งจริงมารวมกันเป็น คะแนนของนักแข่งในสนามนั้น
อย่างล่าสุด ในรายการ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า คว้าชัยทั้ง สปรินท์เรซ และ เรซจริง ก็กวาดไป 12+25 เท่ากับ 37 แต้มเต็มในสนามแรกของโมโตจีพี ฤดูกาลนี้
ในแง่ของคนดูก็ถือว่าได้ดูเรซแข่งสนุกๆมากขึ้นเพราะทุกทีมต้องเต็มที่กับ 2 เรซที่แข่งขันกันในแต่ละสนาม แต่ในแง่ของทีมแข่ง และตัวนักบิด อาจไม่สนุกด้วยเท่าไร เพราะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น งานต้องทำมากขึ้น การเตรียมตัวที่ต้องพร้อมมากขึ้นกว่าเดิมกับเรซที่มีคะแนนสะสมเพิ่มขึ้นมา
ก็ต้องมาดูว่า สปรินท์ เรซ ในโมโตจีพี ฤดูกาลนี้จะได้เสียงตอบรับในแง่บวกหรือลบมากกว่ากัน