8 สมาคมกีฬา ตั้งเป้า 28 ทอง ซีเกมส์

นายศิริ สาระผล อุปนายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นประธานในการแถลงข่าว มีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 22 มีนาคม โดยมี 8 สมาคมกีฬาเข้าร่วม ประกอบด้วยตะกร้อ, มวยสากล, เทควันโด, บาสเก็ตบอล, คาราเต้, ยูยิตสู, โววีนัม และปันจักสีลัต

โดย นาย พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการที่ซีเกมส์ครั้งนี้เจ้าภาพจำกัดการส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน โดยประเภทต่อสู้จาก 16 รุ่น ส่งได้แค่ 10 รุ่นเท่านั้น และร่ายรำ จาก 8 ส่งได้ 5 รุ่นเท่านั้น ทำให้โอกาสที่ไทยจะคว้าเจ้าเหรียญทองในกีฬาเทควันโดเหมือนทุกครั้งคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ยังตั้งเป้าเอาไว้ไม่ต่ำกว่า 5 เหรียญทอง

ขณะที่ นอ.คมกฤษ ทับแก้ว ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมหญิง กล่าวว่า เจ้าภาพให้ส่งได้ 2 ประเภทซึ่งไทยส่ง ทีมชุด​ ตะกร้อคู่ และ​ ตะกร้อเดี่ยว โดยตนมีความมั่นใจมากกับศักยภาพนักกีฬาทุกคนที่มีความพร้อมร้อยเปอร์เซนต์ ซึ่งตอนนี้เก็บตัวฝึกซ้อมกันอยู่ที่ศูนย์ฝึกตะกร้อแห่งชาติ​ คลอง 2 ทีมหญิงเราไม่พลาดเป้าทั้ง 2 ทองแน่นอน

ส่วนทีมชาย​ รท.นภา​ แตงโต​ ผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาย กล่าวว่า​ เจ้าภาพจัดบรรจุ​ 6 อีเวนต์​ แต่ให้แต่ละชาติส่งประเทศละ 3 อีเวนต์เท่านั้น โดยไทยจะส่ง ทีมชุด​ 3 คน,​ ทีมเดี่ยว 3 คน​ และ​ ตะกร้อ 4 คน ส่วนความหวังถึงใจจะอยากตั้ง 2 ทองเพื่อลดความกดดัน แต่ยังไงในซีเกมส์ก็การันตี 3 ทองอยู่แล้ว

ขณะที่ประเภทกีฬาตะกร้อชินลง​ นายสุพจน์ ตุ้มประชา ผู้จัดการทีมชินลง เปิดเผยว่า​ เราตั้งเป้าไว้ 2 ทองในรุ่นที่เมียนมาไม่ส่งแข่งขัน อย่างไรก็ตามตอนนี้ในการฝึกซ้อมทีมไทยก็สามารถทำคะแนนได้มากกว่าคะแนนสูงสุดที่เมียนมาเคยทำไว้ 160 คะแนนแล้ว ดังนั้นมั่นใจว่าจะได้ 2 ทองแน่นอน สรุปแล้วสมาคมกีฬาตะกร้อตั้งเป้า 7 ทองด้วยกัน

ด้านนายตะวัน มุ่งพิงกลาง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย กล่าวว่า เจ้าภาพจัดชิงทั้งหมด 17 ทอง โดยในส่วนของชาย จัด 12 แต่ไทยส่งได้แค่ 8 รุ่น ขณะที่หญิงชิง 5 ทอง ไทยส่งได้แค่ 3 รุ่นเท่านั้น ทางสมาคมฯ ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 5 ทองด้วยกัน

ส่วนนายปิยะพงศ์ พิรุณ​ เลขาธิการสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย​ เปิดเผยว่า บาสชิงทั้งหมด 4 ทอง เราตั้งเป้า 2 ทองชาย-หญิง ในประเภท 3×3 หลังจากคราวก่อนทำเซอร์ไพรส์ได้มาทั้งสองรุ่น และครั้งนี้ยังใช้ทีมชุดเดิมทั้งหมด ส่วน 5×5 ทีมชายเรากำลังจะได้ตัวละครลับลูกครึ่งไทย-เยอรมัน มาร่วมทีม และทีมหญิง 5×5 มีการเปลี่ยนทีมยกชุด ดังนั้นมั่นใจว่าทุกรุ่นมีขึ้นโพเดียมแน่นอน

ผศ.​ดร.ชาญชัย​ สุขสุวรรณ์ นายกสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย​ กล่าวว่า เราตั้งความหวังไว้ที่ 3 เหรียญทอง​ และอาจจะมีบวกเพิ่ม 1 ทอง ซึ่งต้องบอกว่าหนนี้เจ้าภาพบรรจุบางอีเวนต์ที่ไม่เป็นสากล โดยทั้งหมดเปิด​ 13 อีเวนต์ แบ่งเป็น​ ประเภทดูโอ้โชว์​ 6 อีเวนต์​, ยูยิตสู​ล็อก 3 อีเวนต์​ และ​ ประเภทโนกิ 4 อีเวนต์​ ซึ่ง​ โนกิ เป็นประเภทที่สหพันธ์กีฬายูยิตสูนานาชาติไม่ได้รองรับ และประเภทนี้เจ้าภาพเอาตัวอเมริกามาเล่นโดยที่ไม่ได้เป็นลูกครึ่งด้วย​ ดังนั้นไทยเราก็น่าจะลำบาก แต่ตั้งเป้าไว้ก่อน 3 ทอง​ ประกอบด้วย​ ประเภทดูโอ้โชว์​ 2 ทอง​ และ​ ประเภทยูยิตสูล็อก 1 ทอง

นายปราโมทย์ สุขสถิตย์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาโววีนั่มแห่งประเทศไทย เผยว่า โววีนั่ม เป็นกีฬาประจำชาติของเวียดนาม ซึ่งซีเกมครั้งที่ผ่านมา ที่ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เราได้มาทั้งหมด 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ครั้งนี้เรามีประสบการณ์มากขึ้น รวมถึงเราเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องว นักกีฬาพร้อมสมบูรณ์สำหรับการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นครั้งนี่เราตั้งความหวังไว้ที่ 2 ทองจากต่อสู้ และยังแอบหวังว่าจะได้เพิ่มอีก 1 เหรียญทองจากประเภทท่ารำ ซึ่งได้ผู้ฝึกสอนชาวเวียดนามเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้วย สรุปครั้งนี้สมาคมกีฬาโววีนั่มแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าไว้ที่ 3 เหรียญทอง

นายภาณุ​ อุทัยรัตน์​ นายกสมาคมกีฬาปันจักสีลัตแห่งประเทศไทย​ กล่าวว่า​ ซีเกมส์ครั้งที่แล้วปันจักสีลัตนำเหรียญทองแรกมาให้แก่ประเทศไทยได้อย่างยิ่งใหญ่ ครั้งนี้เราก็จะพยายามทำให้ไม่น้อยหน้าครั้งที่​แล้ว​ และมีความพร้อมที่ดี เราเก็บตัวกันอย่างต่อเนื่องที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ​ วิทยาเขตยะลา โดยเจ้าภาพจัด​บรรจุ 22 อีเวนต์​ ซึ่งไทยเราส่งแข่ง 13 อีเวนต์​ แบ่งเป็น ประเภทต่อสู้​ชาย​ 8 คน​ หญิง​ 2 คน​ และประเภทปันจักลีลา ส่ง เดี่ยวชาย​, คู่ชาย และ​ เดี่ยวหญิง​ โดยเราตั้งเป้าไว้ที่ 2 เหรียญทองจากประเภทต่อสู้ได้แก่ อาดิลัน เจ๊ะแมง ความหวังสูงสุดในรุ่น​ 65 กก.​ ชาย​ เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย ส่วนอีกหนึ่งทองคือ​ สุทัศน์ บุญชิต​ ในประเภทต่อสู้​ 80 กก.​ ชาย​ อีกเรื่องคือปันจักสีลัตเพิ่งได้มีการเปลี่ยนกติกาใหม่ ซึ่งเรากำลังพยายามเทรนด์ให้นักกีฬาคุ้นชิน แต่ไม่น่ามีปัญหาเพราะกติกาใหม่ค่อนข้างเข้าทางกีฬามวยไทยซึ่งปันจักฯ เราเองก็มีอดีตนักกีฬามวยไทยเยอะ ดังนั้นเป้า 2 ทองไม่น่าพลาด

พล.อ.สุชาติ จิตต์แจ้ง นายกสมมาคมกีฬาคาราเต้แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ซีเกมส์ ในปี 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ไทยคว้ามาได้ 3 เหรียญทอง ส่วนซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2022 เราไม่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ เราทำได้ดีที่สุดที่ 5 เหรียญทอง 10 เหรียญทองแดง ซึ่งสาเหตุที่เราพลาดเหรียญทองก็มาจากเป็นช่วงที่นักกีฬาถ่ายเลือดใหม่ นักกีฬาเก่าเลิกเล่นไป ทว่าปีนี้โชคดี เราเพิ่งจะกลับมาจากการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งทำให้เราได้เห็นคู่แข่ง ซึ่งครั้งนี้คู่แข่งที่น่ากลัวยังเป็น เวียดนาม, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย อีกทั้งครั้งนี้เราได้นักกีฬาเก่าที่เคยคว้าเหรียญทองกลับมาช่วยทีมด้วย ทำให้เราหวังว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองได้ในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับซีเกมส์ ที่กัมพูชา คาราเต้ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 17 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน และชาย 11 คน ชิงชัยทั้งหมด 13 เหรียญทอง ก็หวังว่าไทยจะได้ซัก 1 เหรียญทอง

ร่วมทั้งหมด 8 สมาคมฯ ตั้งเป้า 28 ทอง และจาก 2 ครั้ง 12 สมาคมฯ ตั้งเป้าไปแล้ว 35 ทองด้วยกัน