ฟุตบอลยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีค รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
วันพุธที่ 15 มีนาคม 2566
เรอัล มาดริด (สเปน) – ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) นัดแรก 5-2
‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ทีมรองจ่าฝูงของลาลีกา สเปน ผลงาน 5 นัดหลังสุดถือว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ชนะได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น โดยผลงานนัดล่าสุดคือการเปิดบ้านเเซงเอาชนะเอสปันย่อล 3-1
ความพร้อมของทีมในวันนี้ กุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือทัพราชันชุดขาว อาจส่งเบนเซม่าลงในนัดนี้ เพื่อลงมาแผลงฤทธิ์ใส่ลิเวอร์พูลอีกครั้งหลังยิงไปถึง 2 ประตู ทำอีก 1 แอสซิสต์ในยกแรก
ส่วนแฟร์กลอง เมนดี้ แบ็กซ้ายตัวเก่งของทีมยังไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้จากอาการเจ็บกล้ามเนื้อตั้งแต่เมื่อปลายเดือนมกราคม ด้านดาวิด อลาบา กองหลังมากประสบการณ์ ยังคงเจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาหรือแฮมสตริง ทีมแพทย์คาดว่าจะกลับมาลงเล่นได้ภายในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ซึ่งจะอดลงเล่นในเกมนี้ไป 6 แต่โดยภาพรวม ทัพ “ลอส บลังกอส” ถือว่ามีความพร้อมเต็มสูบ เนื่องจาก 2 ปีกตัวเก่งอย่างวินิซีอุส จูเนียร์และโรดริโก้ พร้อมลงไปวาดฝีเท้าในสนาม กองกลางอย่างลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, เอดูอาร์ คามาวิงก้า, และเฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ พร้อมลงเชื่อมเกม และแม้จะขาด 2 กองหลังจากอาการบาดเจ็บไป แต่ทีมยังมีเอแดร์ มิลิเตา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, นาโช่ เฟอร์นันเดส, และดานี่ คาร์บาฆาล พร้อมเป็นปราการหลังป้องกันประตู และทิโบร์ กูร์ตัวส์ ก็พร้อมลงเฝ้าเสา
ด้านทีมเยือน ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 6 ของพรีเมียร์ลีค อังกฤษ ผลงานช่วงหลังยังถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ 5 เกมหลังสุด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2 ซึ่งเกมล่าสุดคือการบุกไปพ่ายบอร์นมัธ ทีมบ๊วย 1-0
สภาพความพร้อมของทีม เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยังคงขาดนักเตะตัวหลักของทีมอย่างหลุยส์ ดิอาซ จากอาการเจ็บเข่า และติอาโก้ อัลคันทาร่าจากอาการบาดเจ็บบริเวณขาหนีบ สะโพก และกระดูกเชิงกราน ส่วนโจ โกเมซ กองหลังของทีมยังคงมีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อที่ยืดเยื้อ แม้สามารถลงซ้อมได้ก็ตาม
วิกฤติแดนกลางของลิเวอร์พูลยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกมนี้ก็จะขาดจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีม สเตฟาน บายเซติช กองกลางดาวรุ่ง นาบี เกอิต้า กองกลางกินีของทีม และคาลวิน แรมซีย์ กองกลางดาวรุ่งอีกรายของทีม ทำให้แดนกลางของลิเวอร์พูลอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร แม้จะมีเจมส์ มิลเนอร์ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และฟาบินโญ่ ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่ากองกลางทั้ง 3 จะสามารถเล่นแบบท็อปฟอร์มได้ในเกมนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จะขาดกองกลางไปมาก ลิเวอร์พูลยังคงมีแนวรับและแนวรุกที่ดุดันไม่เกรงใจใครเช่นเดิม โดยอลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารตัวสำคัญของทีมพร้อมลงเฝ้าเสา เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, อิบราฮิมา โกนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พร้อมลงเป็นปราการหลังให้กับทีม ส่วนหัวหอกหลักของทีมอย่างโมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ก็พร้อมลงเล่นในเกมนี้ ควบคู่กับดาร์วิน นูนเญซ และโคดี้ กัคโป สองกองหน้าที่เริ่มฉายฟอร์มเก่งขึ้นมาอีกครั้ง
สกอร์ที่คาด : เรอัล มาดริด ย้ำแค้น 2-1
นาโปลี (อิตาลี) – ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต (เยอรมนี) นัดแรก 2-0
นาโปลี ทีมจ่าฝูงของกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ผลงาน 5 เกมหลังสุดถือว่าอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม พวกเขาชนะ 4 แพ้ 1 เกมล่าสุดคือการเปิดบ้านอัดอตาลันต้า 2-0
ความพร้อมในเกมนี้ กุนซือ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ จะขาดผู้เล่นเพียงแค่คนเดียวนั่นก็คือ จิอาโคโม่ ราสปาดดอรี่ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนในด้านของมาริโอ รุย ต้องเช็คความฟิต
โดยการจัดทีมวันนี้คงเป็นชุดหลักชุดเดิม นำโดย 2 คู่หูสุดโหด วิคเตอร์ โอซิมเฮน และ ควิชา ควารัตสเคเลีย รวมไปถึง แซมโบ้ อ็องกิสซ่า และปิโอเตอร์ ซิลินสกี้
‘อินทรีดำ’ แฟร้งค์เฟิร์ต ทีมอันดับที่ 6 ของบุนเดสลีกา เยอรมนี ผลงานในช่วงหลังนั้นไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ 5 นัดหลังสุด ชนะได้เพียงแค่เกมเดียว
สภาพทีมวันนี้ กุนซือ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ จะไม่มี เอริค เอบิมเบ้ และ เจสเปอร์ ลินด์สตรอม ที่มีอาการบาดเจ็บ และยิ่งไปกว่านั้นจะไม่มี เรนดัล โคโล่ มูอานี่ กองหน้าตัวเก่งของทีมที่โดนใบแดงนัดแรก ทำให้ติดโทษแบบนให้เกมนี้
การจัดทีมในวันนี้ กลาสเนอร์ น่าจะใช้ชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำทัพโดย มาริโอ เกิตเซ่ , เซบาสเตียน โรเด้ , ไดจิ คามาดะ และ ราฟาเอล ซานโต๊ส บอร์เร่
สกอร์ที่คาด : นาโปลี นิ่มๆ 3-1