วนลูปบีจี ฤดูกาลที่เกา(ไม่)ถูกที่คันหรือไม่?

น่าจะเป็นฤดูกาลที่แฟนบอล บีจี ได้พบกับทุกอารมณ์ในการเชียร์ฟุตบอล

หลังจากที่ทีมประสบความสำเร็จจากการคว้าแชมป์ไทยลีกได้ ทีมก็ต่อยอดพัฒนาขึ้นไปเรื่อย และตั้งเป้าหมายในการอยู่ระดับท็อปของประเทศและได้เล่นในฟุตบอลถ้วยระดับเอเชียทุกๆ ปี

มาโกโตะ เทกูระโมริ หนึ่งในเฮ้ดโค้ชที่แฟนบีจีเสียดาย

ก่อนที่ฤดูกาลนี้จะเริ่มต้นขึ้น บีจี ได้สร้างทีมขึ้นมาอย่างน่ากลัว เมื่อดึงตัว “มาโกโตะ เทกูระโมริ” โค้ชชาวญี่ปุ่นฝีมือดีมาคุมทีม แบบชิมลางตั้งแต่ท้ายๆ ฤดูกาล เพื่อสร้างทีมไปเล่นในรายการเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อทีมกรุยทางได้ถึงรอบรองชนะเลิศ ของโซนตะวันออก ซึ่งก็ไปแพ้ถึงญี่ปุ่น 0-4 แต่ถ้าพูดถึงผลงานโดยรวมแล้ว ยอดเยี่ยม และยกระดับทีมได้อย่างมาก เพราะเกมที่แพ้ อูราวะ ก็คือเกมเดียว ที่เทกุซัง คุมทีมแพ้ในรายการนี้

เกมที่บีจี ปทุม บุกไปแพ้ อูราวะ เรด ไดม่อน ยอดทีมจากเจลีก 0-4

บีจีก้าวเข้าสู่ฟุตบอลไทยลีก ด้วยการถูกยกให้เป็นอีกทีมเต็งแชมป์ ที่จะสู้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้อย่างสนุก ด้วยคุณภาพตัวผู้เล่นระดับทีมชาติเต็มทีม ทั้ง ธีรศิลป์ แดงดา, สารัช อยู่เย็น, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, พิธิวัตต์ สุขจิตรธรรมกุล, เจริญศักดิ์ วงศ์กรณ์ และตัวต่างชาติระดับท็อปอย่าง ดิโอโก้ หลุยซ์ ซานโต, อันเดรส ตูเญซ, อีรฟาน-อิคห์ซาน ฟานดี ซึ่งเกมไดกิน แชมเปี้ยนส์คัพ พวกเขาก็เริ่มต้นได้อย่างสวยงาม เอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้อย่างสวยงาม 3-2 แต่หลังจากนั้นในเกมลีก เทกุซัง กลับมีปัญหาในการเล่นเป็นเกมเยือน เมื่อ 5 เกมในช่วงต้นฤดูกาล ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย ผิดวิสัยทีมที่จะก้าวขึ้นไปลุ้นแชมป์ลีก แม้ว่าเกมในบ้านจะทำผลงานยอดเยี่ยมชนะรวดก็ตาม แต่นั่นทำให้คะแนนถูกบุรีรัมย์ ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ จนฟางเส้นสุดท้ายมาขาดลงในเกมที่บุกแพ้ ทรู แบงค็อก 0-2 ทำให้เทกุซัง กระเด็นออกจากตำแหน่งไปแบบที่แฟนบอลบีจี บ่นเสียดายและเริ่มมีความคิดว่า บีจีลูปเดิม จะกลับมาอีกครั้งหรือไม่

เกมนัดสุดท้ายของ เทกูระโมริ บุกไปแพ้ ทรู แบงค็อก 0-2

ชื่อของโค้ชง้วน สุรชัย, โค้ชจุ่น อนุรักษ์ เริ่มเป็นที่พูดถึงว่าจะคัมแบ็คบีจีอีกหรือไม่ แต่สุดท้ายหวยไปออกที่ แมทธิว สมิธ อดีตกองหลังระดับตำนานของทีมอีกคน ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวเลยสักนัด ได้โอกาสขึ้นมารับงานที่กดดันและเต็มไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งสิ่งที่ช็อคแฟนบอลมากขึ้นไปอีกก็คือ การปรับเปลี่ยนทีมระหว่างฤดูกาล ด้วยการปล่อยตัวผู้เล่นที่ไม่อยู่ในแผนและระบบการเล่นที่วางไว้ออกไป ทั้ง วรชิต, ปฐมพล, เจริญศักดิ์, เจสซี เคอแรน, ดิโอโก้, เปาโล คอนราโด้, ลิดอร์ โคเฮน และฉัตรชัย บุตรพรม ออกจากทีม และดึงผู้เล่นจากทีมเชียงใหม่ เอฟซี อย่าง พาตริก กุสตาฟส์สัน, สเตนิโอ จูเนียร์, สุวิทย์ ไปพรมราช, 2 ผู้เล่นจากเมืองทองทั้ง กรวิทช์และวัฒนากร รวมทั้งตัวนอกหน้าใหม่อย่าง เบน อซูเบล และมารุฮาชิ มาเสริมทีม

แมทธิว สมิธ กับวันแรกในการเริ่มต้นงานคุมทีม บีจี ปทุม

ซึ่งผลงานนับตั้งแต่เริ่มเลกสองในไทยลีก 6 นัด พวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียงแค่นัดเดียว นั่นคือเกมที่เฉือน พีที ประจวบ 2-1 นอกนั้นแพ้ 4 เสมอ 1 ซึ่งหลายๆ คนก็มองไปที่การจัดตัวผู้เล่น ที่ดูเหมือนจะไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับเกมลีก เมื่อส่งผู้เล่นชุดสองลงเล่นซะส่วนใหญ่ เพราะต้องการเก็บความสดของผู้เล่นตัวจริงไว้ลงเล่นในเกมฟุตบอลถ้วยทั้ง รีโว่คัพ และช้าง เอฟเอคัพ ที่ประธานสโมสรให้สัมภาษณ์แล้วว่านี่คือเป้าหมายหลักในฤดูกาลนี้ ซึ่งในช่วงเดือน มกราคมที่ผ่านมา ก็ดูจะเป็นไปตามเป้า เมื่อเกมรีโว่คัพ ก็บุกชนะ นครปฐม ยูไนเต็ดได้ 3-2 แต่เมื่อเข้าเดือนกุมภาพันธ์ ที่มีทั้ง ช้างเอฟ เอคัพ เข้ามาคั่นด้วย ตรงนี้ยิ่งทำให้การสลับตัวผู้เล่นในเกมลีกยิ่งมากขึ้น จากเดิมเมื่อจบเลกแรก ทีมอยู่ที่ 5 แต่ตอนนี้หลังจากผ่านไปถึงนัดที่ 21 บีจี หล่นไปอยู่อันดับ 8 ของตารางแล้ว เก็บคะแนนในเลกสองได้เพียง 4 จาก 18 คะแนนเต็ม นั่นคือสิ่งที่ทีมยอมแลก เพื่อผลงานที่ดีในฟุตบอลถ้วย

ผลงานในไทยลีก ชนะแค่เกมเดียวในเลก 2 และได้แค่ 4 แต้ม จาก 6 นัด

แต่เมื่อผลการแข่งขันของฟุตบอลถ้วยที่สำคัญที่สุดอย่าง ช้าง เอฟเอคัพ ออกมาว่าพวกเขาต้องแพ้คาบ้านต่อ โปลิศ เทโร 1-2 นั่นทำให้พวกเขาต้องตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2 ฤดูกาลติดต่อกัน และโอกาสไปเล่น ACL รอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์รายการนี้หมดลงไปด้วย แม้ว่าพวกเขาจะได้โควตา ACL 2023-24 แล้วในรอบเพลย์ออฟ จากการเป็นรองแชมป์เมื่อฤดูกาล 2021-22 แต่ก็อย่างที่รู้กันว่า รอบเพลย์ออฟ จะเสียเปรียบทีมที่แรงกิ้งเหนือกว่าเมื่อต้องไปเจอทีมแข็งๆ จาก ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ ในรอบลึกๆ โอกาสที่จะเข้ารอบแบ่งกลุ่มนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

หลังเกมที่ บีจี แพ้คาบ้านต่อ โปลิศ เทโร 1-2 ในช้างเอฟเอคัพ ตกรอบ 8 ทีมเป็นปีที่สอง

สุดท้ายแล้วผลงานที่ออกมาของ บีจี ในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นการเกาถูกที่คันหรือไม่ จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่ไหนกันแน่แน่ แท็คติกการคุมทีม การแก้เกมของโค้ช หรือตัวผู้เล่นที่เปลี่ยนแปลงเยอะ หรืออะไรกันแน่ นี่คือสิ่งที่ผู้บริหารต้องรีบกู้วิกฤติศรัทธาของแฟนบอลบีจี ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด เหมือนช่วงที่เคยผ่านการตกชั้น และกลับมาพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้ และไปเล่นเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก ในแบบที่แม้จะตกรอบแต่ก็ยังดูมีทรงและภูมิใจกับทุกๆ เกมที่ลงเล่น