เบนนี่ แม็คคาธีย์ ผู้อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงกองหน้าแมนฯ ยูไนเต็ด

ท่ามกลางรอยยิ้มของแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด บางคนอาจจะไม่รู้ว่า เอริก เทน ฮาก ได้ปรับเปลี่ยนสโมสรอย่างไรในช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

หนึ่งในนั้นคือผลงานการยิงประตูแบบถล่มทลายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ฤดูกาลนี้ร้อนแรงและเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ทุกจังหวะการวิ่ง การยิงนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการที่ เอริก เทน ฮาก ได้แต่งตั้ง  เบนนี่ แม็คคาร์ธี อดีตศูนย์หน้าชาวแอฟริกาใต้มาเป็นโค้ชกองหน้าของทีมนั่นเอง

โดย แม็คคาร์ธี ในวัย 45 ปี มีส่วนช่วยให้กองหน้าวัย 25 ปีรายนี้ขยับสถิติเป็นยิง 24 ประตู ทุกรายการ รวม 16 ประตูจาก 17 เกมล่าสุด ด้วยการซ้อมแบบ เซสชันแบบตัวต่อตัวกับ แม็คคาร์ธี เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ แรชฟอร์ด ทั้งการเล่นกองหน้าทางตรง และลูกโหม่ง ซึ่งส่งผลให้เขายิงประในเกมกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ได้อย่างคมกริบ

โดยแรชฟอร์ด เผยไว้เมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า “แน่นอนเขาช่วยผมได้เยอะมาก การมีโค้ชสายเกมรุกเป็นผลดีต่อเรา เขาพร้อมให้คำปรึกษาแก่เราเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้”

ขณะที่ เจดอน ซานโช นักเตะ ยูไนเต็ด อีกคนหนึ่ง ซึ่งยิงประตูได้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ก.พ.) ก็ได้ขอฝึกซ้อมแบบตัวต่อตัวกับ แม็คคาร์ธี หลังหายหน้าหายตาจากสโมสรช่วงปีใหม่ เช่นเดียวกับ อองโตนี มาร์กซิยาล ก็ให้ความสำคัญต่อคำแนะนำของโค้ชเช่นกัน

โดย เทน ฮาก อธิบายเหตุผลในการดึง แม็คคาร์ธี เข้าสู่ทีมสตาฟฟ์ว่า “สตาฟฟ์ของเรามีกองหลังกับกองกลางอยู่หลายคน ผมต้องการหาสมดุล เขาเป็นโค้ชสายเกมรุก เนื่องจากเขาเป็นอดีตกองหน้า และจุดนั้นเป็นงานเฉพาะทางของทีมด้วย”

“ผมไม่เคยเล่นกองหน้า ดังนั้นผมโชคดีที่มีใครบางคนในทีมสตาฟฟ์ของผมเคยเล่นมาก่อน ฟุตบอลตัดสินด้วยการทำประตู คุณมีผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันประตู แต่คุณก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเกมรุก และเรามีโค้ชที่สามารถสอนการจบสกอร์โดยเฉพาะ”

แม็คคาร์ธี พูดได้ 4 ภาษา ได้แก่ อังกฤษ, ดัตช์ (เนเธอร์แลนด์ส), สแปนิช และ โปรตุกีส ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับนักเตะ ยูไนเต็ด ได้ทุกคน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของเขา โดยในสมัยเป็นนักเตะเล่นมาแล้วกับทั้ง อาแจ็กซ์, เซลตา บิโก และ เอฟซี ปอร์โต ซึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ ยิง 2 ประตู เขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด ตกรอบรองชนะเลิศ แล้วคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปี 2004

แม็คคาร์ธี ลงเล่นให้ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 140 เกม ยิง 52 ประตู คว้ารองดาวซัลโว พรีเมียร์ ลีก ปี 2007 ถัดจาก ดิดิเยร์ ดร็อกบา

เคยบุกมายิง แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงโอลด์แทร๊ฟฟอร์ด ในยุคที่ยังเล่นกับ ปอร์โต้

ปิดท้ายที่บทสัมภาษณ์ของ แม็คคาธีย์ถึงเรื่องนี้ว่า
“ผมต้องการช่วยนักเตะหนุ่มๆ เหล่านี้, ผลักดันพวกเขา, เปลี่ยนทัศนคติพวกเขา และสร้างความแตกต่างแก่ ยูไนเต็ด ซีซันนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งซีซันนี้เราจะคืนชีพ ยูไนเต็ด อย่างสมบูรณ์”

เล่นกับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็นทีมท้ายๆ ของอาชีพการค้าแข้ง