เปิดศึกนอกสนาม ลาลีกาแซะพรีเมียร์ลีก ควรโดนกฎการเงิน

ลาลีกา แซะพรีเมียร์ลีก เรื่องการใช้เงิน

ผู้บริหาร ลาลีกา ออกโรงวิจารณ์การใช้จ่ายเงินของสโมสรในศึกพรีเมียร์ ลีก โดยบอกว่า เป็นการขี้โกง และเปรียบเหมือนการใช้สารกระตุ้น พร้อมเรียกร้องให้ ยูฟ่า ออกกฏใหม่เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้

ช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมที่ผ่านมา สโมสรในพรีเมียร์ ลีก ใช้จ่ายเงินเสริมผู้เล่นรวมกันกว่า 829 ล้านยูโร โดยเชลซี ทีมเดียวซัดไป 320 ล้านยูโร

ขณะที่สโมสรของลาลีกา ลงทุนรวมกันเพียง 31 ล้านยูโร โดยเป็นตัวเลขที่เท่ากับเซเรีย อา ส่วนบุนเดสลีกา และ ลีกเอิง จ่ายไป 67 ล้านยูโร กับ 133 ล้านยูโร ตามลำดับ

ฮาเวียร์ เตบาส ประธานใหญ่ ลาลีก้า ออกมากล่าวว่า “หลายคนพูดกันว่า กฎควบคุมการเงินของลาลีกา ทำให้สโมสรจากสเปน เสริมตัวผู้เล่นได้น้อยกว่าสโมสรจากพรีเมียร์ลีก”

“ผมขออธิบายเบื้องหลังนี้ ความจริงก็คือ เราต้องการให้สโมสรในลาลีกา ใช้จ่ายเงินได้ตามเงินทุนที่ตัวเองมี และต้องมาจากรายได้ที่พวกเขาหามาอย่างแท้จริง”

“เป็นความจริงเช่นกัน ที่ผู้ถือหุ้นของสโมสรในลาลีกา รับอนุญาตให้สนับสนุนทีมโดยการลงเงินทุน เพื่อใช้จ่ายในจำนวนซึ่งมากกว่าที่สโมสรหาได้ แต่นั่นก็เป็นไปตามข้อจำกัดของเรา”

“จากข้อมูลที่ปรากฎมา ตลอด 5 ฤดูกาลหลังสุด สโมสรในพรีเมียร์ลีก และเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ขาดทุนรวมกันกว่า 3 พันล้านยูโร ขณะเดียวกัน ลีกสเปน ขาดทุน 250 ล้านยูโร เราต่างได้รับผลกระทบจากโรคระบาดเหมือนกัน”

“ช่วงเวลาเดียวกันนั้น เหล่าผู้ถือหุ้นของสโมสรในพรีเมียร์ลีก และเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ลงทุนรวมกันไปประมาณ 3.5 พันล้านยูโร ส่วนของสเปน 450 ล้านยูโร”

“ผมมองว่า เจ้าของทีมในพรีเมียร์ลีก กำลังใช้สารกระตุ้นกับสโมสร พวกเขากำลังอัดฉีดเงินที่สโมสรไม่ได้หามาด้วยตัวเอง เพื่อนำไปลงทุนใช้จ่าย”

“การทำแบบนั้น ส่งผลให้ความอยู่รอดของสโมสรมีความเสี่ยง หากเกิดกรณีผู้ถือหุ้นอำลาทีม การทำแบบนั้นเป็นการโกง เพราะนั่นเป็นการฉุดทั้งลีกให้ลงไปด้วย”

“เรื่องนี้คือสิ่งที่เราต่อสู้ เรากำลังเรียกร้องให้ยูฟ่า ออกกฎการเงินฉบับใหม่ ซึ่งห้ามไม่ให้ผู้ถือหุ้นของสโมสรอีดฉีดเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ และบังคับใช้กฎดังกล่าวต่อสโมสรที่ไม่ปฏับัติตาม ไม่ว่าจะเป็นลีกไหนในประเทศใด ยูฟ่าควรลงโทษเหล่าสโมสรที่ไม่ปฏิบัติตามกฎนี้”