ลีโอเนล เมสซี่ ยอดซุปเปอร์สตาร์ของ อาร์เจนติน่า จัดการสยบ ทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยจุดโทษ 4-2 หลังจากที่ในเวลาเสมอกันไป 3-3 คว้าแชมป์โลก สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ 1978 และ 1986 พร้อมพา เมสซี่ ผงาดคว้าแแชมป์โลก ที่รอคอยได้ในที่สุด
ครึ่งแรกเดินมาได้ 5 นาที อาร์เจนตินา ได้โอกาสทักทายก่อนจากการยิงไกลของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ บอลพุ่งไปตรงตัว อูโก้ โยริส รับเข้าซองสบาย
ต่อมาใน นาทีที่ 17 โรดรีโก้ เดอ ปอล ได้จังหวะเติมเกมขึ้นทางกราบขวาแล้วจ่ายมาที่หน้าเขตโทษให้ อังเคล ดิ มาเรีย ได้โอกาสซัดประตูแต่น่าเสียดายที่บอลข้ามคานออกไป
จากจังหวะก่อนหน้านี้ ในนาทีที่ 22 อังเคล ดิ มาเรีย ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนจะเป็น อุสมาน เดมเบเล่ เตะล้มลงไปผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษให้ อาร์เจนตินา ทันที ก่อนจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ทัพฟ้าขาวขึ้นนำ 1-0
ต่อมา นาทีที่ 36 อาร์เจนตินา ขึ้นนำ 2-0 จากโอกาสสวนกลับของ ลีโอเนล เมสซี่ จ่ายบอลจากกลางสนามไปให้กับ แม็ค อัลลิสเตอร์ หลุดขึ้นมาถวายพานให้กับ ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยวมาซัดโล่งๆสวนตัวของ อูโก้ โยริส เข้าไปแบบง่ายๆ
ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 41 ฝรั่งเศส แก้เกมก่อนหมดครึ่งแรก ด้วยการเปลี่ยน มาร์คัส ตูราม และ โคโล่ มูอานี่ ลงสนามมาแทนที่ของ อุสมาน เดมเบเล่ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ก่อนจะหมดครึ่งแรก อาร์เจนติน่า ออกนำ ฝรั่งเศส ไปก่อน 2-0
ครึ่งหลังสู้กันได้อย่างสนุก มาจนถึง นาทีที่ 80 นิโคลัส โอตาเมนดี้ ไปทำฟาวร์ใส่ โคโล่ มูอานี่ ล้มในเขตโทษ ก่อนจะเป็น คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ สังหารจุดโทษ และ เป็นทัพตราไก่ ที่สามารถไล่มาได้ 1-2
หลังจากนั้น โมเม้นตั้ม เกิดขึ้นกับ ทีมชาติฝรั่งเศส ไล่ตีเสมอได้สำเร็จ 2-2 จากจังหวะที่ มาร์คัส ตูราม จ่ายบอลจังหวะเดียวให้กับ เอ็มบั๊ปเป้ ก่อนจะหลุดเดี่ยวยิงด้วยขวา ส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปแบบงามหยด
ช่วงทดเวลา 90+7 อาร์เจนติน่า เกือบจะคว้าชัยอยู่แล้ว จากจังหวะที่ เมสซี่ ลากบอกมาปั่นด้วยซ้าย ก่อนจะไปติดเซฟของ อูโก้ โยริส ปัดทิ้งออกหลัง
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบ 90 นาที อาร์เจนตินา เสมอ ฝรั่งเศส 2-2 ต้องไปลุ้นกันต่ออีก 120 นาที ต่อมา นาทีที่ 109 อาร์เจนตินา ขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะที่ เมสซี่ ส่งบอลข้ามเส้นไปเรียบร้อย แม้จะถูกแนวรับ ฝรั่งเศส สกัดทิ้งออกมาก็ตาม
ทั้งนี้ นาทีที่ 117 เอ็มบั๊ปเป้ ยิงไปโดนแขนของ เลอันโดร ปาเรเดส กรรมการเป่าให้เป็นจุดโทษทันที และ เป็นทางด้าน เอ็มบั๊ปเป้ จัดการสังหารเสมอกันไป 3-3 จบ 120 นาทีไปด้วยสกอร์นี้ ต้องไปลุ้นต่อในการดวลจุดโทษ
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเป็น อาร์เจนติน่า ที่ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 คว้าแชมป์เวิล์ด คัพ 2022 ไปครอง และ เป็นสมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์ต่อจากปี 1978 และ 1986
สามารถ ติดตาม ข่าวฟุตบอล ได้ที่ Uthai.net