อังกฤษ ปิดฉากการเดินทางบนแผ่นดินกาตาร์เพียงแค่รอบก่อนรองชนะเลิศเท่านั้นต้องผิดหวังกับความฝันที่จะนำถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลกกลับสู่มาตุภูมิ ทำให้พวกเขาต้องรอกว่า 56 ปีเพื่อความสำเร็จในบอลโลก
ทีมของกุนซือแกเร็ธ เซาธ์เกต พลาดท่าปราชัยให้กับ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า 1-2 โดยพวกเขามีโอกาสที่จะได้ยื้อเวลาเมื่อได้จุดโทษช่วง 6 นาทีสุดท้าย แต่ แฮร์รี่ เคน ยิงไม่เข้า นั่นทำให้ “ทรี ไลอ้อนส์” ต้องเก็บเสื้อผ้ากลับยังเมืองผู้ดีด้วยความเจ็บปวด
จะว่าไปแล้วบรรดาเกจิลูกหนังหลายสำนักต่างมองว่า อังกฤษ ชุดนี้มีลุ้นไปถึงจุดหมายปลายทาง หลังจากที่พวกเขาเคยเกือบทำได้มาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อนที่รัสเซีย ซึ่งตกรอบตัดเชือก จากนั้นก็ทะลุชิง ยูโร 2020 แต่พ่าย อิตาลี
แม้ว่าเส้นทางในศึกฟุตบอลโลก 2022 ฉบับตะวันออกกลางจะสั้นเพียงแค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ขุนพลทีมชาติอังกฤษ ได้แสดงศักยภาพให้เห็นแล้วว่าพวกเขายังคงมีอนาคตที่จะได้สัมผัสความสำเร็จระดับชาติครั้งแรกนับตั้งแต่เวิลด์ คัพ 1966
ลองมาดูกันว่า ลูกทีมของเซาธ์เกต คนไหนทำผลงานได้ถูกใจ แล้วคนไหนที่ยังต้องปรับปรุง หรืออาจจะหมดอนาคตในการช่วยชาติครั้งต่อไป
จอร์แดน พิคฟอร์ด : 7
พิคฟอร์ด โชว์ฟอร์ดเซฟสำคัญหลายครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเฉพาะจังหวะเซฟสุดเหลือเชื่อในเกมกับเซเนกัล หลายครั้งที่เขาช่วยทำให้ อังกฤษ รอดพ้นหายนะนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขายังคงได้เป็นมือ 1 อย่างต่อเนื่อง แต่มีข้อตำหนิดนิดนึงจังหวะที่เสียประตูแรกให้ ฝรั่งเศส เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมถือเป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าประทับสำหรับ โกลเอฟเวอร์ตัน ไคล์
วอล์คเกอร์ : 7
น่าเสียดายที่เกมแรกไม่ได้ลงสนามเนื่องจากเพิ่งจะฟื้นจากอาการผ่าตัด หลังจากนั้นเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น แน่นอนว่าผลงานของที่รับมือกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ไม่มีใครทำได้ดีกว่าเจ้าตัวแน่นอน ทั้งความรวดเร็ว, ความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ ฟูลแบ็กแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำราบความซ่าของ “ประธานเป้” ได้อยู่หมัด
จอห์น สโตนส์ : 9
หากจะพูดว่า สโตนส์ เป็นกองหลังที่แกร่งที่สุดของ อังกฤษ ในตอนนี้ก็คงไม่ผิด ผลงานโดยรวมของเขายอดเยี่ยมมากๆ จังหวะการอ่านเกม และการเสียบสกัดแม่งยำ พยายามขึ้นไปเติมเกมบุกเมื่อมีโอกาส ฉะนั้นต้องบอกเลยว่า “พี่หิน” สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับคำชื่นชมจากการเป็นหัวใจในเกมรับของทีม
แฮร์รี่ แม็กไกรว์ : 8
แม้ว่าผลงานกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะย่ำแย่และไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม แต่สวนทางกับการเล่นในนามทีมชาติเพราะ แม็กไกวร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง เล่นได้เข้าข้างกับ สโตนส์ และนี่คงเป็นเหตุผลที่ เซาธ์เกต เลือกที่จะเชื่อใจพร้อมทั้งให้การสนับสนุนนักเตะอย่างเต็มที่
ลุค ชอว์ : 7
ถือเป็นแบ็กซ้ายที่เล่นได้ดีเยี่ยมทั้งเกมรุก และรับ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มของ ชอว์ โดดเด่นอย่างมากโดยเฉพาะจังหวะการเติมเกมบุก และการเปิดบอลที่เฉียบคม
คีแรน ทริปเปียร์ : 7
ได้รับโอกาสลงตัวจริงในเกมแรกก่อน ที่ วอลค์เกอร์ จะกลับมาฟิตและแย่งตำแหน่งคืน โดยนักเตะเล่นได้ดี โดยเฉพาะการเปิดบอลและการเล่นลูกตั้งเตะ แต่น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งและความเร็วของ วอล์คเกอร์ ทำให้เขาต้องหลบทาง
เอริก ดายเออร์ : 6
เซาธ์เกตเลือกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรอง 2 เกม ถือเป็นผู้เล่นที่มีค่าสำหรับทีมเพราะสามารถลงสนามได้หลากหลายตำแหน่ง และเป็นอีกคนที่มีสภาพความฟิตเต็มเปี่ยม หวังว่าเขาจะได้โอกาสลงตัวจริงมากขึ้นในอนาคต
คอเนอร์ โคดี้ : 6
ถูกเปลี่ยนตัวลงเล่น 1 เกม และทำผลงานได้ดี แน่นอนว่า โคดี้ เป็นหนึ่งในนักเตะที่มีความสำคัญกับทีม และเชื่อว่ายังมีอนาคนสดใสกับทัพ “สิงโตคำราม”
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ : 6
ก่อนทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้มีการพูดถึงฟอร์มของเขาเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องเกมรับ แต่นักเตะยังได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวสำรอง แน่นอนว่า “หนุ่มเทรนต์” ยังเป็นนักเตะที่มีคุณภาพสูงโดยเฉพาะการเปิดบอล แต่ต้องพัฒนาเรื่องการเล่นเกมรับให้ดีกว่านี้ เพื่อโอกาสเป็นตัวหลักทีมชาติในอนาคต
เดแคลน ไรซ์ : 8
หนึ่งในนักเตะที่เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มของอังกฤษ เป็นกองกลางที่ทำผลงานได้อย่างโดเด่นและสุดยอดในทุกๆ เกม โดยเฉพาะแมตช์ปะทะ ฝรั่งเศส ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาต้องการอำลา เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ช่วงตลาดนักเตะซัมเมอร์หน้า
จู๊ด เบลลิงแฮม : 9
นี่คือทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดเต็มตัวของเขา ด้วยวัยเพียง 19 ปีแต่ผลงานเก่งเกินวัย โดยโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดตั้งแต่เกมแรกจนถึงเกมสุดท้าย ด้วยความสามารถที่ยอดเยี่ยม กอปรกับความเป็นผู้นำ งานนี้บอกเลยว่าเขาคืออนาคตกัปตันทีมชาติอังกฤษ
จอร์แดน เฮนเดอร์สัน : 7
นี่คงเป็นฟุตบอลโลก และทัวร์นาเมนต์เมเจอร์สุดท้ายสำหรับเขา “เฮนโด้” ประสานงานได้อย่างลงตัวในการเล่นร่วมกับ เบลลิงแฮม และยังเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นผู้นำ รวมทั้งพร้อมตะโกนสั่งการและช่วยเหลือทีม กัปตัน”หงส์แดง” เป็นผู้เล่นที่มีความเป็นมืออาชีพสุง และเป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญของ “สิงโตคำราม”
เมสัน เมาท์ : 7
ทำผลงานได้ดี แต่ฟอร์มหลุดไปบ้างในบางเกม อย่างไรก็ตามนักเตะยังมีอนาคตกับทีมชาติ โดยเฉพาะทักษะการเล่นและความทุ่มเทถือเป็นสองปัจจัยสำคัญของ เมาท์ ที่จะการันตีโอกาสช่วยชาติต่อไป
คาลวิน ฟิลลิปส์ : 5
หนึ่งในนักเตะทีมชาติอังกฤษที่เจ๋งที่สุดในศึกยูโร 2020 แต่น่าเสียดายที่เจออาการบาดเจ็บเล่นงานทำให้ฟอร์มหลุด แต่เจ้าตัวยังคงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และพร้อมยอมรับสภาพตัวสำรองในทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์ แต่เชื่อเขาจะกลับมาสุดยอดในอนาคตชัวร์
บูกาโย่ ซาก้า : 9
สตาร์อาร์เซน่อลทำผลงานได้สุดยอดเกินห้ามใจ ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในแข้งอังกฤษที่โดดเด่นที่สุด พรสวรรค์ของเขาสร้างความแตกต่างในเกมบุกให้กับ อังกฤษ ฟอร์มการเล่นของนักเตะไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือเขาสามารถยกระดับตัวเองได้เกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้
ฟิล โฟเด้น : 7 ความเร็วและการวิ่งทะลุทะลวงของเขาโดดเด่นมากๆ ด้วยเหตุนี้ทำให้เจ้าตัวได้รับความไว้วางใจจาก เซาธ์เกต ให้ลงตัวจริง สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ สตาร์แมนฯ ซิตี้ ยังไม่ได้ระเบิดฟอร์มที่เก่งที่สุดของเขาเหมือนที่เล่นให้ “เรือใบสีฟ้า”
มาร์คัส แรชฟอร์ด : 8
สตาร์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลงเล่น 4 เกมในทัวร์นาเมนต์นี้ และเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญของ อังกฤา ทั้งยิงประตู, ช่วยทีม และยังคงมุ่งมั่นแม้จะเป็นตัวสำรอง เขาซัดฟรีคิดสุดสวยในเกมกับ เวลส์ และเกือบทำได้อีกครั้งในช่วงนาทีสุดท้ายแมตช์พบ ฝรั่งเศส
แจ็ค กรีลิช : 7
ไม่ได้ลงเล่นตัวจริง แต่มีโอกาสลงสนามในฐานะตัวสำรอง และผลงานถือว่าใช้ได้ ที่สำคัญนักเตะไม่เคยพร่ำบ่นแม้จะรับบทบาทตัวสำรองอดทน เขาพร้อมลงสนามเพื่อสร้างความแตกต่าง ซึ่งเห็นได้ชัดในเกมปะทะ “ตราไก่”
ราฮีม สเตอร์ลิง : 6
ยิงประตูได้, ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ฟอร์มของเขาไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก แถมยังโชคร้ายต้องรีบเดินทางกลับ อังกฤษ เพื่อดูแลครอบครัวที่โดนโจรบุกปล้นบ้าน
แฮร์รี่ เคน : 8
“กัปตันเคน” กลับบ้านในฐานะฮีโร่ เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นี้ มีความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง และยังทำสถิติยิงประตูในนามทัพ “สิงโตคำราม” เทียบเท่า เวย์น รูนี่ย์ แม้จะพลาดจุดโทษในเกมกับ “เลส์ เบลอส์” แต่นักเตะสมควรที่ได้รับคำยกย่องชื่นชมจากผลงานโดยรวมที่กาตาร์
คัลลั่ม วิลสัน : 6
อาจจะไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งกับ เคน ในการเล่นตัวจริงก็ตาม แต่ก็ทำหน้าที่ได้ดีเมื่อถูกส่งลงสนาม โดยพละกำลังและความกระตืนรือร้นของเขามีประโยชน์กับทีม อย่างน้อยเขาก็เป็นส่วนเติมเต็มที่ดีในเกมรุกของอังกฤษ
สามารถ ติดตาม ข่าวฟุตบอล ได้ที่ Uthai.net