การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ที่สนามกีฬาอันโด่งดังใน Lusail ระหว่าง โปรตุเกส และ สวิตเซอร์แลนด์
แฟร์นานโด ซานโตส ผู้จัดการทีมชาติโปรตุเกสตัดสินใจจับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั่งเป็นตัวสำรอง โดยให้ กอนซาโล่ รามอส สตาร์ตตัวจริงในแดนหน้าร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ชูเอา เฟลิกซ์ ส่วน มูรัต ยาคิน นายใหญ่ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ส่งตัวหลักลงสนามครบ ทั้ง กรานิต ชาคา, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ บรีล เอ็มโบโล่
นาทีที่ 17 โปรตุเกส ขึ้นนำ 1-0 จากการยิงสุดคมของ กอนซาโล่ รามอส ที่ซัดเต็มแรง บอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาแรก ชนิดที่ ยานน์ ซอมเมอร์ หมดสิทธิ์ป้องกัน
นาทีที่ 33 บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดลูกเตะมุมเข้ามากลางประตู และเป็น เปเป้ เซนเตอร์แบ็กรุ่นใหญ่วัย 39 ปี เทคตัวโขกบอลเข้าตุงตาข่าย ส่ง โปรตุเกส หนีเป็น 2-0
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 51 โปรตุเกส นำห่างเป็น 3-0 จากการจังหวะที่ ดีโอโก้ ดาโลต์ เปิดบอลเข้ากลางประตู และเป็น รามอส ยิงระยะเผาขนเข้าไป ซึ่งถือเป็นประตูที่สองของหัวหอกจาก เบนฟิก้า ในเกมนี้ด้วย
โปรตุเกส ยังคงเล่นได้ดุดัน ไม่เกรงใจ สวิตเซอร์แลนด์ โดยนาทีที่ 55 เพิ่มสกอร์เป็น 4-0 จากการจังหวะที่ ราฟาแอล เกร์เรโร่ ได้รับบอลจากรามอส ก่อนหลุดเข้าไปยิงบอลเสียบใต้คานอย่างเฉียบขาด
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 58 สวิตเซอร์แลนด์ ได้ประตูตีไข่แตกจาก มานูเอล อาคานจี ที่เข้าชาร์จบอลเข้าประตูตรงเสาสองจากระยะไม่กี่หลา จากลูกเตะมุมของ ชากิรี่
นาทีที่ 67 โปรตุเกส นำไปไกลเป็น 5-1 จากจังหวะที่ ชูเอา เฟลิกซ์ ผ่านบอลให้รามอส หลุดเข้าไปจบสกอร์อย่างเหนือชั้น ด้วยการยกบอลข้ามตัว ซอมเมอร์ เข้าไป ถือเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ และนับเป็นแฮตทริกแรกในศึกฟุตบอลโลก 2022 ด้วย
นาทีที่ 90+1 สกอร์ไหลเป็น 6-1 จากประตูสุดสวยของตัวสำรองอย่าง ราฟาเอล เลเอา ที่ยิงบอลฮุกข้ามตัว ซอมเมอร์ เข้าไปตุงตาข่ายอย่างงาม
จบเกม โปรตุเกส ยำใหญ่ สวิตเซอร์แลนด์ 6-1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ไปดวลกับ โมร็อกโก วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคมนี้
สามารถ ติดตาม ข่าวฟุตบอล ได้ที่ Uthai.net